Last updated: 8 พ.ค. 2563 | 805 จำนวนผู้เข้าชม |
ในราวปี พ.ศ.๒๔๖๐ ในอดีตนั้น บนเนื้อที่จำนวน ๑๔ ไร่ ๓ งาน ๘ ตารางวา
ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดบางปิ้ง เลขที่ ๙๙ หมู่ที่ ๕ ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ในปัจจุบันนี้ ได้เกิดขึ้น จากผู้มีจิตศรัทธาอันแรงกล้าที่จะทำให้เนื้อที่ดินผืนนี้เป็นแผ่นดินในบวรพระพุทธศาสนาสืบต่อไป
ท่านผู้นั้นคือ ท่านพระอธิการจ้อย อดีตเจ้าอาวาสวัดใน(เดิม)สองวิหาร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
ท่านจึงได้อุทิศที่ดินดังกล่าวข้างต้นให้ไว้เป็นสมบัติทางศาสนา โดยมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างให้เป็นที่พักสงฆ์ และเป็นวัดต่อไปในภายภาคหน้า
ในขณะนั้นพระอธิการจ้อย ได้สร้างกุฏิขึ้น เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ได้มาพำนักอาศัย
และจำพรรษา
แต่ในเวลานั้นท่านอธิการจ้อย ท่านยังขาดจตุปัจจัยเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งพุทธศาสนิกชนในเขตปริมณฑลยังมีไม่มากนัก และการคมนาคมสมัยนั้นยังไม่สะดวกสบายเหมือนเช่นทุกวันนี้ และต่อมาการก่อสร้างก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพระอธิดารจ้อยได้มรณภาพลง
ทำให้ที่พักสงฆ์แห่งนี้ต้องขาดการดูแลรักษาเป็นเวลานานหลายปี จนเกือบจะเป็นที่รกร้างเอาเลยทีเดียว
จนการทั่งต่อมาในราวปี พ.ศ.๒๔๙๙ ได้มีพุทธศาสนิกชนผู้มีจิต ศรัทธาได้พร้อมใจร่วมมือกันที่บูรณะที่พักสงฆ์แห่งนี้ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง จึงได้ปรึกษาหารือกันขอความเห็นชอบจากผู้ปกครองดูแลสถานที่ ซึ่งขณะนั้น ท่านพระครูศรัทธาภิรมย์ หรือ พระครูล้อม ซึ่งท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดใน(เดิม)สองวิหารอยู่ในขณะนั้น ท่านก็ได้ความเมตตาและให้ความร่วมมือเป็นอย่างยิ่ง
เพราะท่านได้เล็งเห็นว่า หมู่บ้านคลองบางปิ้งในเวลานั้นได้มีพุทธศาสนิกชนอาศัยอยู่มากแล้ว สมควรที่จะได้บูรณะ และก่อสร้างพุทธสถานให้คืบหน้าต่อไป ให้สมกันเจตนารมณ์ของพระอธิการจ้อยที่ได้ริเริ่มไว้ตั้งแต่ตอนแรก
ท่านจึงได้นิมนต์ พระอาจารย์พริ้ง ให้มาปกครองดูแล ดังนั้นการบูรณะซ่อมแซมและทำนุบำรุงก็ได้กระทำกันมาอยู่เรื่อยๆ ตามแรงใจและแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชน แต่ก็ยังไม่ประสพความสำเร็จตามความปรารถนาดังที่มุ่งมั่นไว้
จนพอดีกับพระอาจารย์พริ้ง ท่านได้ย้ายกลับไปอยู่วัดใน(เดิม)สองวิหาร เพื่อช่วยงานวัด เนื่องจากท่านพระครูศรัทธาภิรมย์ชราภาพมากแล้ว
และต่อมาพระอาจารย์พร ซึ่งพำนักอยู่ในช่วงเดียวกันกับพระอาจารย์พริ้ง ก็ได้รับช่วงการปกครองดูแลต่อมานานพอสมควรสิ่งปลูกสร้างในช่วงนั้นมี ศาลาการเปรียญ ๓ ห้อง ๑ หลัง
กุฏิ ๔ ห้อง ๓ หลัง ศาลาท่าน้ำ ๑ หลัง กำลังทรุดโทรมไปตามกาลเวลาแต่พระอาจารย์พรท่านก็ยังคงทำนุบำรุงสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นไว้เป็นอย่างดีเสมอมา
และแล้วพระอาจารย์พรก็ต้องย้ายไปจำพรรษา อยู่ที่วัดแค ตำบลบางปลากด อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพราะท่านไม่อาจจะขัดศรัทธาของญาติโยมที่มานิมนต์ท่านได้
ครั้นเมื่อพระครูศรัทธาภิรมย์ได้มรณภาพลง พระปลัดคงศักดิ์ สุสํวโร (พระอาจารย์พวง) ได้ดำรงตำแหน่งรักษาการแทน ท่านก็ได้ให้ความเมตตาที่พักสงฆ์คลองบางปิ้งตลอดมา จนกระทั้งท่านได้เล็งเห็นพระภิกษุรูปหนึ่งซึ่งจำพรรษาอยู่ในวัดเดียวกัน ซึ่งมีความรู้ความสามารถที่จะปกครองดูแลและสืบทอดเจตนารมณ์ ของพระอธิการจ้อยต่อไปได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นเองในวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๐๘ พระภิกษุรูปนั้นก็ได้ถูกนิมนต์มาเป็นผู้ปกครองดูแ]ที่พักสงฆ์คลองบางปิ้งสืบต่อมา
และพระภิกษุรูปนั้น ก็คือ พระอาจารย์ลำเจียก ธมฺมธีโร โดยท่านต้องเผชิญกับอุปสรรคนานัปการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านมิใช่พระท้องที่เดิม และยังไม่คุ้นกับสาธุชนทั้งหลาย อีกทั้งภัยธรรมชาติตามฤดูกาลต่างๆ ที่รุมเร้าในบางครั้ง แต่ด้วยผลแห่งแรงศรัทธาและปฏิปทาอันแรงกล้าของท่านยังผลให้ที่พักสงฆ์คลองบางปิ้งได้รับอนุญาตให้ยกฐานะเป็น “วัด” โดยสมบูรณ์ เมื่อวันที่ ๑๔สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๑ และ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา วันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๒ ยังความปลื้มปีติแก่สาธุชนทั้งใกล้และไกล ที่ได้ร่วมทำนุบำรุงและพัฒนาที่พักสงฆ์คลองบางปิ้งร่วมกันมาโดยตลอด เป็นอย่างยิ่ง